ข้อมูลแนวเขตปกครองไม่ตรงกัน: ความท้าทายของการบริหารข้อมูลเชิงพื้นที่ในประเทศไทย

“ข้อมูลภูมิสารสนเทศแนวเขตการปกครอง กับปัญหาที่รอการแก้ไข” โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ BDI ได้หยิบยก ประเด็นเชิงโครงสร้าง ที่สำคัญมากในวงการภูมิสารสนเทศ (Geo-Informatics) ของประเทศไทย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการวางแผนนโยบาย การบริหารจัดการทรัพยากร และการขับเคลื่อน Smart Government
📍 ความสำคัญของข้อมูลแนวเขตการปกครอง (Administrative Boundary Geodata)
ข้อมูลแนวเขตการปกครองคือหนึ่งใน “ข้อมูลภูมิสารสนเทศพื้นฐาน (Fundamental Geospatial Data Themes)” ที่ใช้ใน:
- การวางแผนเชิงพื้นที่ (Spatial Planning)
- การจัดทำระบบสารสนเทศภาครัฐ (e-Government)
- การบริหารงานปกครองท้องถิ่น
- การวิเคราะห์สถิติเชิงพื้นที่ เช่น ข้อมูลประชากร, ทรัพยากร, งบประมาณ
🚫 ปัญหาที่พบจากข้อมูลแนวเขตปัจจุบัน
- ความไม่สอดคล้องของแหล่งข้อมูล (Inconsistency across agencies)
- หน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมการปกครอง, กรมที่ดิน, กรมทางหลวง, GISTDA ต่างใช้แนวเขตที่มีรายละเอียดหรือรูปแบบแตกต่างกัน
- ทำให้การ แลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามระบบ (Interoperability) เกิดปัญหา
- ขาดมาตรฐานกลาง (Lack of unified standard)
- ไม่มีชุดข้อมูลแนวเขต “ฉบับกลาง” ที่ผ่านการรับรองระดับชาติและสามารถนำไปอ้างอิงได้อย่างถูกต้องทางกฎหมาย
- การเปลี่ยนแปลงแนวเขตอย่างไม่เป็นระบบ (Dynamic but ungoverned)
- เขตตำบล หมู่บ้าน มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง แต่ไม่มีการปรับปรุงข้อมูลแนวเขตให้ทันสมัยและสอดคล้องกันทุกหน่วยงาน
- ผลกระทบต่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Inconsistency in Analytics)
- เมื่อใช้แนวเขตคนละชุดในการวิเคราะห์ ทำให้ผลลัพธ์ต่างกัน และอาจส่งผลต่อการจัดสรรงบประมาณหรือนโยบาย
📌 แนวทางแก้ไขที่ถูกเสนอในระดับประเทศ
1. จัดทำฐานข้อมูลแนวเขตมาตรฐานระดับชาติ
- สร้างฐานข้อมูลกลางโดยหน่วยงานแม่ข่าย (เช่น GISTDA หรือ DGA)
- ใช้การรับรองโดยคณะกรรมการระดับชาติด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศ (NSDI Thailand)
2. การใช้เทคโนโลยี GIS + Blockchain เพื่อยืนยันสิทธิ์
- บันทึกการเปลี่ยนแปลงแนวเขตอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
- ป้องกันข้อพิพาทจากการแก้ไขโดยพลการ
3. พัฒนา API กลางสำหรับเชื่อมโยงแนวเขต
- ให้หน่วยงานรัฐสามารถดึงแนวเขตที่เป็นทางการไปใช้ในการวิเคราะห์ได้โดยตรงผ่าน Web Map Services (WMS/WMTS)
4. อัปเดตแบบ Real-Time หรือ Near Real-Time
- ใช้ระบบ GeoSpatial Hub สำหรับการแจ้งและอนุมัติเปลี่ยนแปลงแนวเขตจากท้องถิ่นแบบมีขั้นตอน
📚 เชื่อมโยงกับแนวคิดสากล
แนวทางนี้สอดคล้องกับ UN-GGIM (United Nations Committee of Experts on Global Geospatial Information Management) ที่เน้นการพัฒนา Core Geospatial Data และระบบ “Authoritative Boundaries” เพื่อใช้ในการบริหารจัดการระดับรัฐบาล
🧠 บทสรุปเชิงวิชาการ
ปัญหาเรื่องแนวเขตการปกครองที่ไม่สอดคล้องกันนั้นไม่ได้เป็นเพียงปัญหาทางเทคนิค GIS เท่านั้น แต่เป็นปัญหาเชิงนโยบายและโครงสร้างการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการข้ามหน่วยงาน พร้อมกรอบกฎหมายและมาตรฐานกลางที่ชัดเจน