18, พ.ค. 2024
ข้อมูลแนวเขตปกครองไม่ตรงกัน: ความท้าทายของการบริหารข้อมูลเชิงพื้นที่ในประเทศไทย

ข้อมูลภูมิสารสนเทศแนวเขตการปกครอง กับปัญหาที่รอการแก้ไข” โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ BDI ได้หยิบยก ประเด็นเชิงโครงสร้าง ที่สำคัญมากในวงการภูมิสารสนเทศ (Geo-Informatics) ของประเทศไทย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการวางแผนนโยบาย การบริหารจัดการทรัพยากร และการขับเคลื่อน Smart Government

📍 ความสำคัญของข้อมูลแนวเขตการปกครอง (Administrative Boundary Geodata)

ข้อมูลแนวเขตการปกครองคือหนึ่งใน “ข้อมูลภูมิสารสนเทศพื้นฐาน (Fundamental Geospatial Data Themes)” ที่ใช้ใน:

  • การวางแผนเชิงพื้นที่ (Spatial Planning)
  • การจัดทำระบบสารสนเทศภาครัฐ (e-Government)
  • การบริหารงานปกครองท้องถิ่น
  • การวิเคราะห์สถิติเชิงพื้นที่ เช่น ข้อมูลประชากร, ทรัพยากร, งบประมาณ

🚫 ปัญหาที่พบจากข้อมูลแนวเขตปัจจุบัน

  1. ความไม่สอดคล้องของแหล่งข้อมูล (Inconsistency across agencies)
    • หน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมการปกครอง, กรมที่ดิน, กรมทางหลวง, GISTDA ต่างใช้แนวเขตที่มีรายละเอียดหรือรูปแบบแตกต่างกัน
    • ทำให้การ แลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามระบบ (Interoperability) เกิดปัญหา
  2. ขาดมาตรฐานกลาง (Lack of unified standard)
    • ไม่มีชุดข้อมูลแนวเขต “ฉบับกลาง” ที่ผ่านการรับรองระดับชาติและสามารถนำไปอ้างอิงได้อย่างถูกต้องทางกฎหมาย
  3. การเปลี่ยนแปลงแนวเขตอย่างไม่เป็นระบบ (Dynamic but ungoverned)
    • เขตตำบล หมู่บ้าน มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง แต่ไม่มีการปรับปรุงข้อมูลแนวเขตให้ทันสมัยและสอดคล้องกันทุกหน่วยงาน
  4. ผลกระทบต่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Inconsistency in Analytics)
    • เมื่อใช้แนวเขตคนละชุดในการวิเคราะห์ ทำให้ผลลัพธ์ต่างกัน และอาจส่งผลต่อการจัดสรรงบประมาณหรือนโยบาย

📌 แนวทางแก้ไขที่ถูกเสนอในระดับประเทศ

1. จัดทำฐานข้อมูลแนวเขตมาตรฐานระดับชาติ

  • สร้างฐานข้อมูลกลางโดยหน่วยงานแม่ข่าย (เช่น GISTDA หรือ DGA)
  • ใช้การรับรองโดยคณะกรรมการระดับชาติด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศ (NSDI Thailand)

2. การใช้เทคโนโลยี GIS + Blockchain เพื่อยืนยันสิทธิ์

  • บันทึกการเปลี่ยนแปลงแนวเขตอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
  • ป้องกันข้อพิพาทจากการแก้ไขโดยพลการ

3. พัฒนา API กลางสำหรับเชื่อมโยงแนวเขต

  • ให้หน่วยงานรัฐสามารถดึงแนวเขตที่เป็นทางการไปใช้ในการวิเคราะห์ได้โดยตรงผ่าน Web Map Services (WMS/WMTS)

4. อัปเดตแบบ Real-Time หรือ Near Real-Time

  • ใช้ระบบ GeoSpatial Hub สำหรับการแจ้งและอนุมัติเปลี่ยนแปลงแนวเขตจากท้องถิ่นแบบมีขั้นตอน

📚 เชื่อมโยงกับแนวคิดสากล

แนวทางนี้สอดคล้องกับ UN-GGIM (United Nations Committee of Experts on Global Geospatial Information Management) ที่เน้นการพัฒนา Core Geospatial Data และระบบ “Authoritative Boundaries” เพื่อใช้ในการบริหารจัดการระดับรัฐบาล


🧠 บทสรุปเชิงวิชาการ

ปัญหาเรื่องแนวเขตการปกครองที่ไม่สอดคล้องกันนั้นไม่ได้เป็นเพียงปัญหาทางเทคนิค GIS เท่านั้น แต่เป็นปัญหาเชิงนโยบายและโครงสร้างการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการข้ามหน่วยงาน พร้อมกรอบกฎหมายและมาตรฐานกลางที่ชัดเจน

ใส่ความเห็น

Related Posts