18, ธ.ค. 2019
แนวคิดและหลักการการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ GIS การวิเคราะห์ข้อมูล GIS เพื่องานระบาดวิทยา

แนวคิดและหลักการการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่องานระบาดวิทยา
— สำหรับบุคลากรสาธารณสุขที่ต้องลงชุมชนและนักศึกษาปริญญาโท คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


แนวคิดและหลักการการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ GIS การวิเคราะห์ข้อมูล GIS เพื่องานระบาดวิทยา

ปฏิบัติการ สำหรับบุคลาการสายสาธารณสุขที่ต้องลงชุมชน ต้องการศึกษาแนวคิดในการนำ GIS เพื่อไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในด้านระบาดวิทยา จากการบรรยายในกลุ่มนักศึกษาปริญญาโทของคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  

ผู้สนใจสามารถเข้าชม เพื่อให้ได้แนวคิดนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อไปจากวีดีโอชุดนี้

🎯 วัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์ข้อมูล GIS เพื่องานระบาดวิทยา

การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในงานระบาดวิทยา เป็นแนวทางที่ช่วยให้สามารถ ติดตาม วิเคราะห์ และตัดสินใจเชิงพื้นที่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อต้องลงพื้นที่ภาคสนามเพื่อวางแผนจัดการโรคติดต่อหรือภัยสุขภาพในระดับพื้นที่

จุดเด่นของ GIS ในระบาดวิทยา
✅ เห็นการกระจายโรคในพื้นที่แบบแผนที่
✅ วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงร่วมกับสภาพแวดล้อม
✅ เชื่อมโยงข้อมูลเชิงเวลาและพื้นที่
✅ สนับสนุนการคาดการณ์และเตือนภัย

🧠 แนวคิดหลักที่ควรเข้าใจ

1. Spatial Epidemiology

การศึกษาการกระจายตัวของโรคหรือพฤติกรรมสุขภาพในพื้นที่เฉพาะ โดยเน้นว่า “สถานที่มีผลต่อสุขภาพอย่างไร?”

2. GIS Layers for Epidemiology

GIS ใช้การจัดการข้อมูลแบบ ชั้นข้อมูล (Layers) เช่น:

Layerข้อมูลที่ประกอบ
พื้นที่การปกครองตำบล อำเภอ จังหวัด
ข้อมูลสถานบริการโรงพยาบาล ศูนย์สุขภาพ
พิกัดผู้ป่วยจากแบบฟอร์มภาคสนาม
ปัจจัยสิ่งแวดล้อมน้ำ, ป่า, โรงงาน, สัตว์พาหะ
ข้อมูลถนน / ทางเดินสำหรับการวางแผนการเคลื่อนย้าย

🛠️ ตัวอย่างปฏิบัติการ

📍 ขั้นตอนปฏิบัติในพื้นที่ชุมชน

  1. เก็บข้อมูลภาคสนาม
    • ใช้ Google Form + Handy GPS
    • เก็บพิกัดผู้ป่วย/บ้าน/ศูนย์สุขภาพ
    • บันทึกประเภทโรค, วันที่เริ่มป่วย, ปัจจัยร่วม
  2. สร้างฐานข้อมูล GIS
    • นำข้อมูลจาก Google Sheet มาเปิดใน QGIS / ArcMap
    • แปลงเป็น point layer
    • Join กับข้อมูลเชิงพื้นที่ เช่น shapefile ของตำบล
  3. ทำการวิเคราะห์
    • การนับจำนวนผู้ป่วยรายตำบล (spatial join)
    • การสร้างแผนที่ heat map / density map
    • การวิเคราะห์ cluster ด้วย Spatial Statistics เช่น Getis-Ord Gi*, Moran’s I
  4. แสดงผลแผนที่สื่อสาร
    • Choropleth Map: แสดงอัตราป่วย
    • Buffer Analysis: วิเคราะห์รัศมีรอบจุดเสี่ยง
    • Network Analysis: เส้นทางเข้าถึงศูนย์บริการ

📘 กรณีศึกษานำร่อง: ปฏิบัติการในหลักสูตร ป.โท สาธารณสุข ธรรมศาสตร์

ตัวอย่างการลงพื้นที่เก็บข้อมูล “โรคไข้เลือดออก”
ใช้ Google Form รวบรวมพิกัดบ้านผู้ป่วย, ประวัติน้ำขัง, การพ่นยาฆ่ายุง
สร้าง thematic map วิเคราะห์ hotspot และสรุปเพื่อวางแผนร่วมกับ อบต. และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)


🔗 ช่องทางติดตามเพิ่มเติม

📺 ติดตามชุดวิดีโอ “GIS เพื่อสาธารณสุข
โดย อ.สุเพชร จิรขจรกุล
🔗 YouTube: เรียน GIS ออน์ไลน์ สไตล์อาจารย์สุเพชร


✅ สรุป

การประยุกต์ใช้ GIS ในระบาดวิทยาไม่ใช่เพียงแค่การทำ “แผนที่ผู้ป่วย” แต่คือการต่อยอดข้อมูลสุขภาพด้วย “บริบทของสถานที่” ซึ่งทำให้เห็นความเชื่อมโยงของ โรค-คน-สภาพแวดล้อม ได้อย่างมีพลัง
ผู้เรียนหรือบุคลากรที่ผ่านการอบรมสามารถนำไปใช้ในภารกิจ ควบคุมโรค, วางแผนวัคซีน, หรือ สร้างแดชบอร์ดภาคสนาม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใส่ความเห็น

Related Posts