18, ก.ย. 2019
แนวคิดทฤษฎีการประยุกต์ Geo-Informatics เพื่องานด้านสาธารณสุข (ตอนที่ 2 – 1/2)

แนวคิดทฤษฎีการประยุกต์ Geo-Informatics เพื่องานด้านสาธารณสุข (ตอนที่ 2 – 1/2)

แนวคิดทฤษฎีการประยุกต์ Geo-Informatics เพื่องานด้าน สาธารณสุข เป็นการนำองค์ความรู้จาก 3 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ Remote Sensing (RS), Global Positioning System (GPS) และ Geographic Information Systems (GIS) มาผนวกใช้เพื่อ วิเคราะห์ ติดตาม วางแผน และจัดการ ปัญหาสาธารณสุขในเชิงพื้นที่ (spatial perspective) อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวคิดทฤษฎีการประยุกต์ Geo-Informatics ได้แก่ Remote Sensing, Global Positioning System (GPS), Geographic Information Systems (GIS) เพื่อการจัดทำแผนที่เพื่อการติดตามเหตุการณ์สถานการณ์ โรคภัย ไข้เจ็บ หรืองานด้านสาธารณสุข (ตอนที่ 2) ผู้สนใจสามารถเข้าชม เพื่อให้ได้แนวคิดนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อไปจากวีดีโอชุดนี้

🧠 แนวคิดหลักของ Geo-Informatics ในงานสาธารณสุข

1. Remote Sensing (RS): การรับรู้จากระยะไกล

ประเด็น รายละเอียด
📡 อธิบาย การใช้ภาพจากดาวเทียมหรืออากาศยานเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อม
🧪 ประยุกต์ ตรวจหาแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย (แหล่งน้ำขัง), ติดตามหมอกควัน, ดัชนี NDVI ตรวจพื้นที่ป่า
🌍 ความถี่ ใช้ภาพจาก Landsat, MODIS, Sentinel, UAV เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมเชิงพื้นที่ของพื้นที่เสี่ยง

2. Global Positioning System (GPS): ระบบกำหนดตำแหน่งพิกัด

ประเด็น รายละเอียด
📍 อธิบาย ใช้รับพิกัดภูมิศาสตร์ (Lat/Long) ของสถานที่จริง เช่น บ้านผู้ป่วย จุดเสี่ยง
📲 เครื่องมือ Handy GPS, สมาร์ทโฟน, อุปกรณ์ GPS logger
🗺️ ประยุกต์ ระบุจุดผู้ป่วย, จุดแพร่โรค, จุดให้บริการสาธารณสุข, ติดตามเคลื่อนที่ของเจ้าหน้าที่

3. Geographic Information Systems (GIS): ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์

ประเด็น รายละเอียด
🖥️ อธิบาย ระบบที่ใช้ในการรวบรวม จัดเก็บ วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลเชิงพื้นที่
🔎 เครื่องมือ ArcGIS, QGIS, Google Earth, My Maps
🧮 ประยุกต์
  • ทำแผนที่การระบาดของโรค (Epidemic Map)

  • วิเคราะห์ Buffer/Overlay จุดเสี่ยง

  • สร้าง Dashboard ติดตามผู้ป่วย

  • วิเคราะห์ระยะห่างหน่วยบริการสุขภาพ |


🧪 ตัวอย่างการประยุกต์ Geo-Informatics

เทคโนโลยี การประยุกต์ในงานสาธารณสุข
RS วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงมลพิษ/ไฟป่า/PM2.5
GPS บันทึกจุดผู้ป่วย COVID-19 ในพื้นที่ห่างไกล
GIS วางแผน Mobile Clinic ให้บริการในจุดเข้าถึงยาก

📊 การบูรณาการทั้ง 3 ระบบ

RS + GPS + GIS = Spatial Health Intelligence

ขั้นตอน:

  1. รวบรวมข้อมูล จาก RS → สภาพแวดล้อม

  2. เก็บพิกัดภาคสนาม จาก GPS → จุดผู้ป่วย/หน่วยบริการ

  3. นำเข้า GIS เพื่อวิเคราะห์เชิงพื้นที่ → เช่น Hotspot, Buffer


🎓 ประโยชน์เชิงนโยบายและปฏิบัติ

ระดับ การประยุกต์ใช้
ระดับนโยบาย ใช้แผนที่ตัดสินใจจัดสรรทรัพยากร (ยา, ทีม, รพ.)
ระดับชุมชน วางแผนเยี่ยมบ้านผู้ป่วย, วางระบบแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง
ระดับวิชาการ ตีพิมพ์งานวิจัย Spatial Epidemiology

📺 เรียนรู้ต่อจากวิดีโอโดยอาจารย์สุเพชร

🎬 ตอนที่ 2 – Part 1/2
เรื่อง: แนวคิดทฤษฎีการประยุกต์ Geo-Informatics เพื่องานด้านสาธารณสุข

🔗 กด Subscribe ที่นี่
📌 ช่อง: เรียน GIS ออน์ไลน์ สไตล์อาจารย์สุเพชร


🧾 สื่อเสริมการเรียนรู้

สื่อ รายละเอียด
📘 สไลด์ PDF “Geo-Informatics in Public Health” พร้อมแผนผังระบบ RS-GPS-GIS
📂 แบบฝึก Lab GPS → Excel → My Map สำหรับนักเรียนภาคสนาม
🧪 กรณีศึกษา Spatial Epidemiology ตัวอย่างไข้เลือดออก, COVID, PM2.5

✅ สรุป

Geo-Informatics ไม่ใช่แค่ “แผนที่” แต่คือ “ข้อมูลเชิงพื้นที่” ที่ช่วยให้งาน สาธารณสุขเชิงรุก มีเป้าหมาย ชัดเจน และวางแผนตามสภาพแวดล้อมจริง
การบูรณาการ RS, GPS และ GIS คือหัวใจของ “การเฝ้าระวังสุขภาพอัจฉริยะเชิงพื้นที่ (Smart Public Health Surveillance)” ในยุคดิจิทัล

ติดตามความรู้ทางยูทูปของอาจารย์สุเพชรได้ที่
♫♪♥♥ SUBSCRIBE ♥♥♫♪
“เรียน GIS ออน์ไลน์ สไตล์อาจารย์สุเพชร”

http://www.youtube.com/subscription_center?add_user=supetgis2me

♫♪♥♥[̲̅̅T][̲̅̅H][̲̅̅A][̲̅̅N][̲̅̅K] [Y][̲̅̅O][̲̅̅U]♥♥♫♪
.(◕‿◕✿)

ใส่ความเห็น

Related Posts