การใช้งานเบื้องต้นกูเกิลเอิร์ธ ตอนที่ 1
การใช้งานเบื้องต้นของโปรแกรม Google Earth: ตอนที่ 1
การเริ่มต้นใช้งาน Google Earth จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เนื่องจากโปรแกรมจะทำการดึงข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมในรูปแบบดิจิทัลผ่านระบบออนไลน์เพื่อแสดงผลแบบเรียลไทม์ เมื่อผู้ใช้เปิดโปรแกรมครั้งแรก ระบบจะเริ่มต้นโดยแสดงภาพบริเวณทวีปอเมริกาเหนือเป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้สามารถเลื่อนและขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้โดยใช้เมาส์หรือเครื่องมือควบคุมที่โปรแกรมกำหนดไว้
ในขั้นตอนแรกของการใช้งาน ผู้ใช้สามารถเปิดโปรแกรมโดย ดับเบิลคลิกที่ไอคอน Google Earth บนหน้าจอ หรือเรียกใช้งานผ่านเมนูเริ่มต้น (Start Menu) ของระบบปฏิบัติการ

การใช้งานเบื้องต้นของโปรแกรม Google Earth: ตอนที่ 1 มีขั้นตอนและฟังก์ชันสำคัญดังนี้
ฟีเจอร์เสริม
Google Earth มีฟังก์ชันแสดงเส้นละติจูด-ลองจิจูด (Gridlines) เพื่อช่วยเรียนรู้พิกัดทางภูมิศาสตร์ และสามารถเปิด-ปิดการแสดงอาคาร 3 มิติได้
การเริ่มต้นใช้งาน
เปิดโปรแกรม Google Earth โดยดับเบิลคลิกที่ไอคอนบนหน้าจอ หรือเรียกผ่านเมนูเริ่มต้น (Start Menu) ของระบบปฏิบัติการ เครื่องคอมพิวเตอร์ควรเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อดึงข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมแบบเรียลไทม์ เมื่อเปิดโปรแกรมครั้งแรก ระบบจะแสดงภาพบริเวณทวีปอเมริกาเหนือเป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้สามารถเลื่อนดูพื้นที่อื่น ๆ ได้ด้วยเมาส์หรือเครื่องมือควบคุมในโปรแกรม
การค้นหาสถานที่ (Fly to)
ใช้ช่องค้นหาที่ชื่อว่า “Fly to” พิมพ์ชื่อประเทศ เมือง หรือสถานที่สำคัญ เช่น “Thailand” แล้วกด Search โปรแกรมจะเลื่อนแผนที่ไปยังตำแหน่งนั้น พร้อมแสดงชื่อสถานที่ในชั้นข้อมูลของ Google Earth
การค้นหาสถานที่สามารถดำเนินการผ่านช่องคำสั่งที่ชื่อว่า Fly to ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้พิมพ์ชื่อประเทศ เมืองหลวง หรือสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่ต้องการค้นหา เช่น หากพิมพ์คำว่า “Thailand” แล้วกดปุ่ม Search ระบบจะแสดงตำแหน่งของประเทศไทยพร้อมแสดงชื่อสถานที่ในชั้นข้อมูลของ Google Earth และเลื่อนแผนที่ไปยังตำแหน่งเป้าหมายโดยอัตโนมัติ.
การเลื่อนและซูมแผนที่
ใช้เมาส์ลากเพื่อเลื่อนดูพื้นที่ต่าง ๆ และใช้ปุ่ม +/- ที่มุมขวาล่าง หรือคลิกขวาแล้วลากเมาส์เพื่อซูมเข้า-ออก2.
การปรับมุมมอง 3 มิติ (Tilt up)
สามารถปรับมุมมองให้เป็นแบบสามมิติ เพื่อเห็นภูมิประเทศในลักษณะมุมเอียง เหมาะสำหรับการศึกษาเชิงภูมิศาสตร์และการเรียนรู้ เช่น การทายตำแหน่งประเทศหรือเมืองต่าง ๆ
ผู้ใช้ยังสามารถ ปรับมุมมองเป็นแบบสามมิติ (3D) โดยใช้คำสั่ง Tilt up ซึ่งช่วยให้สามารถเห็นภูมิประเทศในลักษณะมุมเอียง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาเชิงภูมิศาสตร์ เช่น การใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเยาวชน เพื่อทายตำแหน่งประเทศต่าง ๆ หรือเมืองสำคัญทั่วโลก โดยฝึกการใช้งานผ่านการสะกดชื่อสถานที่เป็นภาษาอังกฤษ
http://www.gis2me.com/gcom/wp-content/uploads/2008/08/4ge004.pdf
การใช้ Google Earth ในการค้นหาสถานที่สำคัญต่าง ๆ สามารถทำได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ โดยมีขั้นตอนและฟีเจอร์หลักดังนี้:
- เปิดโปรแกรม Google Earth หรือเข้าใช้งานผ่านเว็บไซต์ Google Earth
- ใช้ช่องค้นหาที่มุมบนซ้าย (Search box หรือ Fly to) พิมพ์ชื่อสถานที่สำคัญ เช่น ชื่อเมือง ประเทศ ชื่อถนน หรือแม้แต่พิกัดละติจูด-ลองจิจูด เช่น “Thailand”, “วัดศรีชุม”, หรือ “1600 Pennsylvania Ave, Washington, DC”
- กด Enter หรือคลิกปุ่มค้นหา โปรแกรมจะซูมและเลื่อนแผนที่ไปยังตำแหน่งที่ค้นหา พร้อมแสดงชื่อและข้อมูลของสถานที่นั้น ๆ บนแผนที่
- สามารถใช้ฟีเจอร์ Street View โดยลากไอคอนรูปคนสีเหลืองไปวางบนพื้นที่ที่แสดงเป็นสีฟ้าอ่อน เพื่อชมภาพถนนและสถานที่จริงในมุมมอง 360 องศา
- ปรับมุมมอง 3 มิติ (Tilt up) เพื่อดูภูมิประเทศและสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบสามมิติ เพิ่มความสมจริงในการสำรวจ
- Google Earth ยังเก็บประวัติการค้นหาไว้ในส่วน History เพื่อให้สามารถกลับไปดูสถานที่ที่เคยค้นหาได้อีกครั้ง
- นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาสถานที่ทั่วไป เช่น ร้านกาแฟ หรือสถานที่ท่องเที่ยว โดยพิมพ์คำค้นแบบกว้าง เช่น “coffee in NYC” เพื่อดูสถานที่ที่เกี่ยวข้องในบริเวณนั้น
สรุปคือ Google Earth ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาและสำรวจสถานที่สำคัญทั่วโลกได้อย่างสะดวก ผ่านการพิมพ์ชื่อสถานที่หรือพิกัดในช่องค้นหา พร้อมฟีเจอร์เสริมอย่าง Street View และมุมมอง 3 มิติ ที่ช่วยให้การสำรวจมีความสมจริงและละเอียดมากขึ้น
การใช้ Google Earth ในการวัดระยะทางและระดับความสูง มีขั้นตอนและฟังก์ชันหลักดังนี้:
- เปิดโปรแกรม Google Earth Pro
- ไปที่เมนู Tools (เครื่องมือ) แล้วเลือก Ruler (ไม้บรรทัด) เพื่อเปิดเครื่องมือวัดระยะทางและพื้นที่
- เลือกประเภทการวัด เช่น
- Line (เส้นตรง) สำหรับวัดระยะทางระหว่างจุดสองจุดหรือมากกว่า
- Polygon (รูปหลายเหลี่ยม) สำหรับวัดพื้นที่
- Path 3D (เส้นทาง 3 มิติ) สำหรับวัดระยะทางในแนวลาดเอียงหรือเส้นทางที่มีความสูงต่างกัน
- คลิกกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดบนแผนที่ตามต้องการ โปรแกรมจะแสดงระยะทางหรือพื้นที่ที่วัดได้ทันที
- สามารถบันทึกผลการวัดไว้ในส่วน Places (สถานที่) เพื่อเรียกดูภายหลังได้
- สำหรับการวัดระดับความสูงและดูโปรไฟล์ความสูงของเส้นทาง ให้วาดเส้นทาง (Path) แล้วไปที่เมนู Edit (แก้ไข) เลือก Show Elevation Profile (แสดงโปรไฟล์ความสูง)
- ระบบจะแสดงกราฟความสูงตามเส้นทางที่วาด โดยแกน Y แสดงระดับความสูง และแกน X แสดงระยะทางตามเส้นทางนั้น
- สามารถเลื่อนเมาส์บนกราฟเพื่อดูระดับความสูงและระยะทางในแต่ละจุดได้อย่างละเอียด
- หน่วยวัดระยะทางและความสูงสามารถปรับเปลี่ยนได้ในเมนู Tools > Options (Windows) หรือ Google Earth > Preferences (Mac) เพื่อเลือกหน่วยเป็นเมตร, กิโลเมตร, ฟุต หรือไมล์ตามความเหมาะสม
สรุปคือ Google Earth Pro มีเครื่องมือวัดระยะทางและระดับความสูงที่ใช้งานง่ายและแม่นยำ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวัดระยะทางระหว่างจุดต่าง ๆ วัดพื้นที่ และวิเคราะห์โปรไฟล์ความสูงของเส้นทางได้อย่างละเอียดและสะดวก
การใช้ Google Earth Pro ในการวัดระยะทางและระดับความสูง มีวิธีการและฟังก์ชันสำคัญดังนี้:
- เปิดโปรแกรม Google Earth Pro บนคอมพิวเตอร์
- ใช้เครื่องมือ Ruler (ไม้บรรทัด) ซึ่งอยู่ในเมนูด้านซ้ายหรือเมนู Tools เพื่อวัดระยะทางและพื้นที่
- เลือกรูปแบบการวัด เช่น
- Line (เส้นตรง) สำหรับวัดระยะทางระหว่างจุดสองจุดหรือมากกว่า
- Path (เส้นทาง) สำหรับวัดระยะทางตามเส้นทางที่กำหนด
- Polygon (รูปหลายเหลี่ยม) สำหรับวัดพื้นที่
- คลิกกำหนดจุดบนแผนที่ตามต้องการ โปรแกรมจะแสดงระยะทางหรือพื้นที่ที่วัดได้ทันที
- สามารถแก้ไขจุดที่วัดโดยการลากจุดบนแผนที่ได้
- หน่วยวัดสามารถเปลี่ยนได้ เช่น เมตร, กิโลเมตร, ฟุต, ไมล์ ผ่านเมนูตัวเลือกหน่วยวัด
- สำหรับการวัดระดับความสูง ให้เลื่อนเมาส์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการดูระดับความสูง โปรแกรมจะแสดงค่าระดับความสูง (Elevation) ที่มุมล่างขวาของหน้าจอ
- หากต้องการดูโปรไฟล์ความสูงของเส้นทาง ให้สร้างเส้นทาง (Path) แล้วคลิกขวาเลือก Show Elevation Profile โปรแกรมจะแสดงกราฟระดับความสูงตามเส้นทางนั้น
- ฟีเจอร์นี้ช่วยให้วิเคราะห์ความชันและระดับความสูงของพื้นที่ได้อย่างละเอียด
ข้อควรทราบ:
- การวัดระยะทางใน Google Earth Pro อาจมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศซับซ้อน
- การวัดระยะทางแบบ 2 มิติ (top-down view) จะให้ผลแม่นยำกว่าการวัดในมุมมอง 3 มิติ
สรุปคือ Google Earth Pro มีเครื่องมือวัดระยะทางและระดับความสูงที่ใช้งานง่ายและแม่นยำ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวัดระยะทางระหว่างจุด วัดพื้นที่ และวิเคราะห์โปรไฟล์ความสูงของเส้นทางได้อย่างละเอียดและสะดวก
การใช้ Google Earth Pro ในการวัดขนาดของรูปหลายเหลี่ยม (Polygon) มีขั้นตอนดังนี้:
- เปิดโปรแกรม Google Earth Pro บนคอมพิวเตอร์
- ไปที่เมนูด้านบน เลือกเครื่องมือ Add Polygon (เพิ่มรูปหลายเหลี่ยม)
- คลิกบนแผนที่เพื่อกำหนดจุดแต่ละจุดของรูปหลายเหลี่ยม โดยคลิกซ้ายเพื่อวางจุดตามตำแหน่งที่ต้องการ
- วาดรูปหลายเหลี่ยมโดยคลิกจุดต่อเนื่องจนปิดรูป (เชื่อมจุดสุดท้ายกับจุดแรก)
- หน้าต่าง New Polygon จะปรากฏขึ้น ให้ตั้งชื่อและปรับแต่งลักษณะของรูปหลายเหลี่ยม เช่น สีเส้นขอบ สีพื้นที่ และความโปร่งใส
- โปรแกรมจะแสดงข้อมูลขนาดพื้นที่ (Area) และความยาวเส้นรอบรูป (Perimeter) ของรูปหลายเหลี่ยมในหน่วยที่เลือกไว้ (เช่น ตารางเมตร, ตารางกิโลเมตร, ตารางฟุต ฯลฯ)
- หากต้องการแก้ไขรูปหลายเหลี่ยม สามารถคลิกขวาที่ชื่อรูปหลายเหลี่ยมในแถบ Places เลือก Properties (คุณสมบัติ) แล้วลากจุด (nodes) บนแผนที่เพื่อปรับรูปร่างได้
- เมื่อเสร็จสิ้น กด OK เพื่อบันทึกข้อมูลรูปหลายเหลี่ยมและขนาดพื้นที่
ข้อควรทราบ:
- การวัดพื้นที่และระยะทางใน Google Earth Pro ใช้มุมมองแบบ 2 มิติ (top-down view) เพื่อความแม่นยำสูงสุด
- การวัดไม่รวมการเปลี่ยนแปลงระดับความสูง (Elevation) ดังนั้นในพื้นที่ภูมิประเทศซับซ้อนอาจมีความคลาดเคลื่อนบ้าง
- สามารถเปลี่ยนหน่วยวัดได้ในเมนู Tools > Options > 3D View > Units
สรุปคือ Google Earth Pro มีเครื่องมือวาดและวัดรูปหลายเหลี่ยมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดพื้นที่บนแผนที่และวัดขนาดพื้นที่รวมถึงเส้นรอบรูปได้อย่างสะดวกและแม่นยำ พร้อมฟังก์ชันแก้ไขรูปร่างรูปหลายเหลี่ยมตามต้องการ
การใช้ Google Earth Pro ในการวัดระยะทางระหว่างสองจุดบนเส้นทาง มีขั้นตอนดังนี้:
- เปิดโปรแกรม Google Earth Pro
- ไปที่เมนูด้านบน เลือก Tools (เครื่องมือ) แล้วคลิก Ruler (ไม้บรรทัด) เพื่อเปิดเครื่องมือวัดระยะทาง
- ในหน้าต่าง Ruler ให้เลือกแท็บ Line หรือ Path (ถ้าต้องการวัดระยะทางตามเส้นทางที่มีหลายจุด)
- คลิกบนแผนที่เพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นของการวัดระยะทาง
- คลิกจุดถัดไปบนเส้นทางที่ต้องการวัดระยะทางระหว่างสองจุด หรือคลิกหลายจุดถ้าวัดเส้นทางที่มีหลายช่วง
- โปรแกรมจะแสดงระยะทางรวมในหน่วยที่เลือก (เช่น เมตร, กิโลเมตร, ฟุต, ไมล์) ในหน้าต่าง Ruler ทันที
- หากต้องการบันทึกผลการวัด ให้คลิกปุ่ม Save ตั้งชื่อ แล้วกด OK เพื่อเก็บไว้ในแถบ Places
- สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น โปรไฟล์ความสูงของเส้นทาง โดยคลิกขวาที่เส้นทางที่วัด เลือก Show Elevation Profile เพื่อดูกราฟระดับความสูงตามเส้นทางนั้น
นอกจากนี้ สามารถเปลี่ยนหน่วยวัดได้ที่เมนู Tools > Options (Windows) หรือ Google Earth > Preferences (Mac) เพื่อเลือกหน่วยที่เหมาะสมกับการใช้งาน
สรุปคือ Google Earth Pro มีเครื่องมือวัดระยะทางที่ใช้งานง่ายและแม่นยำ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวัดระยะทางระหว่างสองจุดหรือเส้นทางที่ซับซ้อนได้ พร้อมฟีเจอร์ดูระดับความสูงประกอบการวิเคราะห์เส้นทางอย่างละเอียด