การบูรณาการ Spatial Computing และ Digital Twin เพื่อเร่งพัฒนาระบบนิเวศภูมิสารสนเทศ
บทวิเคราะห์วิชาการ: การประชุม Geospatial World Forum 2025 – การบูรณาการ Spatial Computing และ Digital Twin เพื่อเร่งพัฒนาระบบนิเวศภูมิสารสนเทศ
บทนำ

การประชุม Geospatial World Forum (GWF) ประจำปี 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22–25 เมษายน ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน ถือเป็นเวทีสำคัญระดับโลกสำหรับนักวิชาการ นักวิจัย และผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิสารสนเทศ โดยมีธีมหลักว่า “Spatial Computing & Digital Twin Enterprise: Accelerating the Future Geospatial Ecosystem” ซึ่งเน้นการบูรณาการเทคโนโลยีเชิงพื้นที่กับระบบดิจิทัล เพื่อเร่งพัฒนาระบบนิเวศภูมิสารสนเทศในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ
แนวคิดหลัก: การบูรณาการ Spatial Computing และ Digital Twin
Spatial Computing คือ การผสานโลกทางกายภาพและดิจิทัลเข้าด้วยกันผ่านการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่แบบเรียลไทม์จากเซนเซอร์ ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ และอัลกอริธึมขั้นสูง รวมถึงเทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) และเสมือนจริงเต็มรูปแบบ (VR) เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนที่สามารถสำรวจและปรับปรุงการดำเนินงานในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การก่อสร้าง และการวางผังเมือง
Digital Twin Enterprise คือ การสร้างแบบจำลอง 3 มิติของวัตถุหรือระบบจริง โดยใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการ วิเคราะห์ จำลอง และปรับปรุงข้อมูลเชิงพื้นที่ที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
การประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม
การประชุม GWF 2025 ได้แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ Spatial Computing และ Digital Twin ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น:
- การวางผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน: การใช้ Digital Twin เพื่อจำลองและวิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐานของเมือง ช่วยในการวางแผนและการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การวางผังเมืองด้วย Digital Twin
- Digital Twin ช่วยให้ผู้วางแผนเมืองสามารถจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ หรือการปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะ ตัวอย่างเช่น ในเมือง Des Moines สหรัฐอเมริกา ได้ใช้ Digital Twin เพื่อประเมินผลกระทบของโครงการพัฒนาต่อทัศนียภาพของเมืองและการวางผังพื้นที่สีเขียว Axios
- การจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้วย Digital Twin
- Digital Twin ช่วยในการตรวจสอบและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน และระบบสาธารณูปโภค โดยการรวมข้อมูลจากเซนเซอร์และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์สภาพและคาดการณ์ความต้องการในการบำรุงรักษา ในเมืองต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์และอัมสเตอร์ดัม ได้ใช้ Digital Twin เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบพลังงานและการจัดการทรัพยากร Reuters
- การมีส่วนร่วมของประชาชน
- Digital Twin ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการวางผังเมือง โดยการให้ข้อมูลและความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์มเสมือน ซึ่งช่วยให้การวางแผนเมืองมีความโปร่งใสและตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในเมือง Rennes ประเทศฝรั่งเศส ได้ใช้ Digital Twin เพื่อส่งเสริมกระบวนการวางแผนที่มีส่วนร่วมของประชาชน

- การเกษตร: การใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่และเซนเซอร์เพื่อปรับปรุงการจัดการทรัพยากรและเพิ่มผลผลิต การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Digital Twin ในภาคการเกษตร: การบูรณาการข้อมูลเชิงพื้นที่และเซนเซอร์เพื่อการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มผลผลิต
- การบูรณาการข้อมูลเชิงพื้นที่และเซนเซอร์
- การสร้าง Digital Twin สำหรับภาคการเกษตรต้องอาศัยการบูรณาการข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ข้อมูลจากเซนเซอร์ภาคสนาม (เช่น ความชื้นในดิน อุณหภูมิ ปริมาณสารอาหาร) ข้อมูลจากดาวเทียมและโดรน (เช่น ภาพถ่ายทางอากาศ ดัชนีความเขียว NDVI) และข้อมูลภูมิอากาศ (เช่น ปริมาณฝน อุณหภูมิ ลม) ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลร่วมกันเพื่อสร้างแบบจำลองเสมือนของฟาร์มที่สามารถจำลองสภาพแวดล้อมและการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างแม่นยำ
- การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
- Digital Twin ช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวางแผนการให้น้ำ การใส่ปุ๋ย และการใช้สารเคมี โดยอิงจากข้อมูลที่ได้จากแบบจำลองเสมือนของฟาร์ม ตัวอย่างเช่น ระบบ CropSmart Digital Twin (CSDT) ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัย George Mason ใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ภาคสนามและภาพถ่ายดาวเทียมร่วมกับปัญญาประดิษฐ์เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมของฟาร์มและช่วยในการตัดสินใจด้านการจัดการพืชผล GIS Resources
- การเพิ่มผลผลิตและความยั่งยืน
- การใช้ Digital Twin ช่วยให้เกษตรกรสามารถคาดการณ์ผลผลิตได้อย่างแม่นยำและวางแผนการเก็บเกี่ยวได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืน ตัวอย่างเช่น โครงการของ NASA ที่ใช้ Digital Twin ร่วมกับแบบจำลองการเจริญเติบโตของพืชและข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อปรับปรุงการคาดการณ์ผลผลิตและการจัดการทรัพยากรน้ำ

- การจัดการภัยพิบัติ: การใช้ Spatial Computing เพื่อจำลองสถานการณ์และวางแผนการตอบสนองต่อภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ
- การจำลองสถานการณ์และการวางแผนการตอบสนอง
- Digital Twin ช่วยให้สามารถจำลองสถานการณ์ภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือไฟป่า ได้ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง โดยใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ภาคสนาม ดาวเทียม และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ มาสร้างแบบจำลองที่สามารถแสดงผลกระทบของภัยพิบัติต่อโครงสร้างพื้นฐานและประชากรในพื้นที่ต่าง ๆ การจำลองเหล่านี้ช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนการอพยพ การจัดสรรทรัพยากร และการตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การวิเคราะห์ความเสี่ยงและการประเมินผลกระทบ
- ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลเชิงพื้นที่ Digital Twin ช่วยในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของพื้นที่ต่าง ๆ ต่อภัยพิบัติ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความหนาแน่นของประชากร สภาพภูมิประเทศ และโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ยังสามารถประเมินผลกระทบของภัยพิบัติต่อระบบต่าง ๆ เช่น ระบบคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค และระบบสาธารณสุข ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์ในการวางแผนและตัดสินใจในการจัดการภัยพิบัติ MDPIKnowledge Hub
- การฝึกอบรมและการเตรียมความพร้อม
- Digital Twin ยังสามารถใช้ในการฝึกอบรมและเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และประชาชนต่อภัยพิบัติ โดยการสร้างสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริง ทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถเรียนรู้และฝึกปฏิบัติในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย การฝึกอบรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความพร้อมในการตอบสนองต่อเหตุการณ์จริง ICCGIS 2024
- การประสานงานและการสื่อสาร
- ในสถานการณ์ภัยพิบัติ การประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ Digital Twin ช่วยในการสร้างภาพรวมของสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันและแม่นยำ ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถสื่อสารและประสานงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยในการตัดสินใจและวางแผนการตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
ผลกระทบต่อระบบนิเวศภูมิสารสนเทศ
การบูรณาการ Spatial Computing และ Digital Twin ช่วยเร่งพัฒนาระบบนิเวศภูมิสารสนเทศ โดย:
- เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูล: การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้สามารถจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ส่งเสริมการตัดสินใจที่มีข้อมูลสนับสนุน: การมีข้อมูลเชิงพื้นที่ที่แม่นยำและทันสมัยช่วยให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจสามารถทำการตัดสินใจที่ดีขึ้น
- สนับสนุนความยั่งยืนและความยืดหยุ่น: การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยในการวางแผนและการดำเนินงานที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง
สรุป
การประชุม Geospatial World Forum 2025 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการ Spatial Computing และ Digital Twin ในการเร่งพัฒนาระบบนิเวศภูมิสารสนเทศ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูล การตัดสินใจ และการวางแผนที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
อ้างอิง
- Geospatial World Forum 2025. (2025). https://www.geospatialworld.net/gwf/2025/
- Plenary Agenda | Geospatial World Forum 2025. (2025). https://www.geospatialworld.net/gwf/2025/plenary.php
- Geospatial World Forum AEC Summit – WFEO. (2025). https://www.wfeo.org/events/geospatial-world-forum-aec-summit/
- Geospatial World Forum 2025 | Living in EU. (2025). https://living-in.eu/events/geospatial-world-forum-2025