18, ก.ย. 2008
กระทรวงไอซีทีเตรียมส่งดาวเทียม SMMS ขึ้นสู่วงโคจร
กรณีศึกษาสำคัญของการพัฒนาระบบอวกาศของไทยผ่านความร่วมมือระดับพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของโครงการดาวเทียม SMMS (Small Multi-Mission Satellite) ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในสาขา รีโมทเซนซิง (Remote Sensing), การจัดการทรัพยากร, และ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ ได้อย่างกว้างขวาง
Technorati Tags: ,,,,

ที่มาหัวข้อข่าว : http://www.space.mict.go.th/mict

กระทรวงไอซีทีได้ร่วมสร้างดาวเทียมอเนกประสงค์ (Memorandum of Understanding for Small Multi-Mission Satellite Project and Related Activities :SMMS) เป็นดาวเทียมร่วมสร้างระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน  มีประเทศสมาชิกลงนาม 6 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน มองโกเลีย ปากีสถาน บังคลาเทศและอิหร่าน  ซึ่งเป็นโครงการสร้างดาวเทียมเอนกประสงค์ขนาดเล็ก (Small Multi – Mission Satellite :SMMS)หรือ SMMS เป็นผลงานวิจัยของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเกิดจากความร่วมมือพหุภาคีด้านเทตโนโลยีอวกาศและการประยุกต์ใช้งานในภูมิภาคและเอเชียแปวิฟิก (Asia–Pacific Multilateral Cooperation in Space Technology and Application :AP-MCSTA)  เป็นโครงการที่ดีอีกโครงการหนึ่ง ในด้านรีโมทเซนซิง

นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้ให้ข่าวสารถึงคณะรัฐมนครีได้มีมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2540 ให้ประเทศไทย เข้าร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในระหว่าง 6 ประเทศข้างต้น
 

ถ้ามาดูรายละเอียดของ ดาวเทียม SMMS  มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา วิจัย ออกแบบ เทคโนโลยีอวกาศและพัฒนาบุคลากรไทยให้มีศักยภาพในการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไปได้ โดยประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบการจัดสร้างอุปกรณ์สื่อสาร ระบบ Ka-Band  บรรจุในตัวดาวเทียม SMMS

คุณลักษณะของดาวเทียม SMMS ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LOW Earth Orbit) ส่งขึ้นสู่วงโคจรในแนวเหนือใต้ หรือ Sun-Synchonous polar orbit เป็นดาวเทียมเพื่อการวิจัยด้านการสื่อสารในย่าน Ka-Band ความถี่ขาขึ้น 29.2 GHz และตวามถี่ขาลง 18.72 GHz ติดตั้งกล้องถ่ายภาพสีแบบ CCD Multi-Spectrum จำนวน 2 ชุด สามารถถ่ายภาพได้กว้าง 700 กิโลเมตร ติดตั้งกล้องถ่ายภาพแบบ Hyper-Spectrum ที่สามารถถ่ายภาพได้ถึง 128 แถบความถี่ น้ำหนักประมาณ 510 กิโลกรัม มีอายุการใช้งาน 3 ปี
mict012ประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยีรีโมทเซนซิง ที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนจะได้ร่วมมือกันพัฒนาและประยุกต์ใช้ดาวเทียมดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น1. การบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่ง / การเฝ้าระวังภัยพิบัติ สามารถนำภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้สังเกตการณ์และจัดการพื้นที่บริเวณชายฝั่ง ความหนาแน่นการจราจรชายฝั่ง การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์วิทยา และการเฝ้าระวังภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น ภัยน้ำท่วม ดินถล่ม ซึ่งสามารถเฝ้าดูปริมาณน้ำสะสมในแต่ละลุ่มน้ำ รวมทั้งใช้ประกอบการวิเคราะห์ผลกระทบก่อนและหลังการเกิดภัยพิบัติ2. การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพของดิน การประเมินความรุนแรงของการกัดเซาะผิวดิน การจำแนกประเภทของป่าไม้ และการวิเคราะห์ความหนาแน่นของป่าไม้ เป็นต้น3. การเกษตรกรรม เพื่อใช้ในการวางแผนและบริหารจัดการพื้นที่และผลิตผลทางการเกษตร สามารถประเมินผลผลิตที่คาดว่าจะได้และสนับสนุนการตัดสินใจในด้านเศรษฐกิจและสังคมของพื้นที่อย่างเหมาะสม4. การชลประทาน เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ประเมินแหล่งน้ำต่างๆ ได้แก่ แม่น้ำ เขื่อน อ่างเก็บน้ำ เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำในฤดูน้ำหลาก /บรรเทาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง สามารถรองรับปริมาณความต้องการใช้น้ำในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ ยังใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนด้านการชลประทานและการแจกจ่ายน้ำ การเปลี่ยนแปลงเส้นทางน้ำ รวมทั้งคุณภาพของน้ำ5. การประมง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการสำรวจพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการทำประมง และ/หรือ แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ6. การสำรวจและการจัดทำแผนที่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ วางผังเมือง จัดทำ แผนที่ และติดตามการขยายตัวของเมือง/แหล่งชุมชน ให้มีความเหมาะสม

ทางกระทรวงไอซีที สร้างสถานีภาคพื้นดินประจำที่และสถานีภาคพื้นดินเคลื่อนที่ พร้อมอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณและระบบควบคุมติดตามดาวเทียม ส่วนสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดสร้างอุปกรณ์ด้าน Remote Sensing การทดลองวิทยาศาสตร์ และจรวดส่งดาวทียม รวมทั้งสถานีติดตามและควบคุมดาวเทียม

🛰️ กรณีศึกษา: โครงการดาวเทียมอเนกประสงค์ SMMS ภายใต้ความร่วมมือพหุภาคีในเอเชีย–แปซิฟิก


1. 🔖 ที่มาของโครงการ

  • โครงการ Small Multi-Mission Satellite (SMMS) เป็นความร่วมมือระหว่าง ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคในชื่อ
    Asia–Pacific Multilateral Cooperation in Space Technology and Applications (AP-MCSTA)
  • มีประเทศผู้ร่วมลงนามใน MOU 6 ประเทศ ได้แก่:
    ไทย, จีน, เกาหลีใต้, มองโกเลีย, ปากีสถาน, บังคลาเทศ และอิหร่าน
    ซึ่งมุ่งเน้นความร่วมมือในการพัฒนาดาวเทียมขนาดเล็กเพื่อการสำรวจโลก (Earth Observation)
  • คณะรัฐมนตรีไทยอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2540
    โดยมี นายมั่น พัธโนทัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีในขณะนั้น

2. ⚙️ รายละเอียดทางเทคนิคของ ดาวเทียม SMMS

รายการรายละเอียด
ประเภทวงโคจรวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit: LEO) แบบ Sun-synchronous polar orbit
วัตถุประสงค์เพื่อการสื่อสาร (Ka-Band) และการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing)
น้ำหนักประมาณ 510 กิโลกรัม
อายุการใช้งานประมาณ 3 ปี
กล้องถ่ายภาพ– กล้อง CCD Multi-spectral 2 ชุด (ขอบเขตภาพ 700 กม.)
  • กล้อง Hyper-spectral (128 แถบความถี่) | | ความถี่สื่อสาร | Up: 29.2 GHz / Down: 18.72 GHz (Ka-Band) |

3. 🌏 การแบ่งความรับผิดชอบระหว่างประเทศ

ประเทศหน้าที่รับผิดชอบหลัก
ไทย– พัฒนาอุปกรณ์สื่อสาร Ka-Band
  • จัดตั้งสถานีภาคพื้นดิน (ประจำที่และเคลื่อนที่)
  • ระบบควบคุมและรับสัญญาณดาวเทียม | | จีน | – ผลิตตัวดาวเทียม
  • พัฒนา payload สำหรับ remote sensing
  • สร้างจรวดส่งและสถานีควบคุมวงโคจร |

4. 🌿 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากดาวเทียม SMMS

4.1 🔹 ด้านสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ

  • การตรวจสอบแนวชายฝั่งทะเล, ความหนาแน่นของกิจกรรมมนุษย์
  • การเฝ้าระวังภัยพิบัติ: น้ำท่วม, ดินถล่ม, การเปลี่ยนแปลงปริมาณน้ำฝน

4.2 🔹 ด้านทรัพยากรธรรมชาติ

  • การตรวจสอบความเสื่อมโทรมของดิน, กัดเซาะชายฝั่ง
  • การจำแนกประเภทและวิเคราะห์ความหนาแน่นของป่าไม้

4.3 🔹 ด้านเกษตรกรรม

  • การประเมินผลผลิตพืช, พื้นที่เพาะปลูก
  • ใช้เป็นข้อมูลในการสนับสนุนการตัดสินใจด้านเศรษฐกิจ–สังคม

4.4 🔹 ด้านชลประทาน

  • ประเมินระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ, เขื่อน และแม่น้ำ
  • วางแผนการจัดการน้ำในฤดูแล้งและฤดูฝน

4.5 🔹 ด้านประมง

  • ตรวจสอบแหล่งน้ำที่เหมาะแก่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
  • ใช้เป็นข้อมูลเสริมในการประเมินสุขภาพระบบนิเวศน้ำจืดและน้ำเค็ม

4.6 🔹 ด้านการสำรวจและทำแผนที่

  • สนับสนุนการวางผังเมือง, การจัดการพื้นที่ชุมชน
  • ตรวจสอบการขยายตัวของเมืองและการบุกรุกพื้นที่ป่า

5. 🔍 ประเด็นที่ควรต่อยอดเชิงวิชาการ

ประเด็นแนวทางศึกษาต่อ
การประมวลผลข้อมูลจากกล้อง Hyper-spectralพัฒนาโมเดลแยกชนิดพืช/วัสดุ
การเปรียบเทียบข้อมูลกับดาวเทียมอื่นเช่น Landsat, Sentinel, THEOS
การติดตามผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยใช้ Time-Series จาก SMMS
การฝึกอบรมบุคลากรท้องถิ่นให้ใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมในภาคเกษตรหรือสิ่งแวดล้อม

📚 สรุป

โครงการ SMMS ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยใน การสร้างสมรรถนะด้านอวกาศและรีโมทเซนซิงแบบบูรณาการ โดยอาศัยความร่วมมือระดับพหุภาคีที่เชื่อมโยงภาคเทคโนโลยีกับภาคนโยบาย ขณะเดียวกันยังสะท้อนศักยภาพของไทยในเวทีภูมิภาคด้านอวกาศ และเปิดโอกาสให้พัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ให้เข้าใจ Earth Observation Science ในระดับที่ลึกและหลากหลาย

ใส่ความเห็น

Related Posts