1, ก.ย. 2006
Google Earth คืออะไร

Google Earth คืออะไร

Google Earth คือ ระบบแสดงข้อมูลภูมิสารสนเทศ (Geospatial Information System: GIS) บนพื้นฐานเทคโนโลยี ภาพถ่ายจากดาวเทียม และ ภาพถ่ายทางอากาศ ผสานกับการประมวลผลข้อมูลภูมิประเทศ 3 มิติ ที่พัฒนาโดยบริษัท Google Inc. เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง ภาพจำลองพื้นผิวโลกในเชิงพื้นที่ ได้อย่างเสมือนจริงผ่านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

Google Earth ใช้ข้อมูลภาพถ่ายจากหลายแหล่ง เช่น ภาพถ่ายทางอากาศของ U.S. public domain และภาพถ่ายดาวเทียมของคีย์โฮล รวมทั้งระบบแผนที่ของกูเกิลแมพ ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาตำแหน่งต่างๆ ได้จากบ้านเลขที่ ละติจูด ลองจิจูด และยังมีฟีเจอร์อย่าง Street View ที่ช่วยให้ชมภาพถนนและสถานที่ต่างๆ ในมุมมอง 360 องศาได้

โปรแกรมนี้ทำงานแบบ Client-Server โดยดึงภาพจากเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลมาแสดงผลแบบเรียลไทม์ ไม่ได้เก็บภาพไว้ในเครื่อง และมีการอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Google Earth ยังรองรับการแสดงข้อมูล GIS (Geographic Information System) และสามารถแสดงสิ่งปลูกสร้าง 3 มิติ ภูมิประเทศ และพรมแดนต่างๆ ได้

Google Earth ทำงานบนระบบพื้นฐานของฐานข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ (Geodatabase) ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ธรณีวิทยา และการใช้ที่ดิน โดยสามารถเรียกดูข้อมูลเชิงพื้นที่ (spatial data) ได้ตั้งแต่ระดับ ดาวเทียม จนถึง ระดับชุมชน ในรายละเอียดระดับเมตรหรือน้อยกว่า

Google Earth มีประโยชน์ทั้งในด้านการศึกษา การวางแผนการเดินทาง การสำรวจทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และธรณีวิทยา รวมถึงการสร้างแผนที่และแบ่งปันข้อมูลผ่านภาษามาร์กอัปเฉพาะที่เรียกว่า KML (Keyhole Markup Language)


คุณลักษณะเด่นของ Google Earth (Academic Viewpoint)

  • เป็นเครื่องมือที่ใช้ใน การแสดงผลเชิงภาพ (Visualization) และ การสำรวจเชิงพื้นที่ (Spatial Exploration)
  • รองรับข้อมูลจากหลายแหล่ง ได้แก่ ภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายทางอากาศ แผนที่ภูมิประเทศ 3 มิติ และข้อมูลจากผู้ใช้งาน
  • สามารถซ้อนทับ (Overlay) ข้อมูลชั้นข้อมูล (Layers) ต่าง ๆ เช่น เขตการปกครอง เส้นทางจราจร ภาพถ่ายสถานที่สำคัญ และแบบจำลองอาคาร 3 มิติ
  • มีความสามารถในการค้นหาและคำนวณตำแหน่งพิกัดทางภูมิศาสตร์ (Latitude/Longitude Coordinates)
  • รองรับการเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี GIS อื่น ๆ เช่น KML/KMZ Files, GPS, หรือ Remote Sensing

การประยุกต์ใช้งานในเชิงวิชาการ

Google Earth มีบทบาทสำคัญในหลายศาสตร์ เช่น

  • ภูมิศาสตร์ และ ภูมิสารสนเทศศาสตร์: ใช้เพื่อการสังเกตภูมิประเทศ การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่
  • สิ่งแวดล้อม: ติดตามพื้นที่ป่าไม้ ทรัพยากรน้ำ และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
  • สาธารณสุขและสังคมศาสตร์: วิเคราะห์การเข้าถึงบริการสาธารณะ การกระจายโรค หรือการวางแผนเชิงพื้นที่
  • การวางแผนเมืองและวิศวกรรม: สนับสนุนการวางผังเมือง โครงข่ายคมนาคม และการออกแบบโครงการพัฒนา


Google Earth ใช้ข้อมูลจากแหล่งไหนในการแสดงภาพถ่ายดาวเทียม

Google Earth ใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศจากแหล่งข้อมูลหลากหลาย เช่น ภาพถ่ายทางอากาศของ U.S. public domain และภาพถ่ายดาวเทียมของ Keyhole รวมถึงข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจโลกอย่าง Landsat, SPOT, Sentinel และ MODIS โดยภาพเหล่านี้ถูกนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีสตรีมมิ่งและระบบแผนที่ของกูเกิล เพื่อแสดงผลในรูปแบบ 3 มิติและแผนที่ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างและต่อเนื่อง

Google Earth มีระบบการอัปเดตข้อมูลจากดาวเทียมโดยรวบรวมภาพถ่ายดาวเทียมจำนวนมากจากหลายโครงการ เช่น โครงการ Landsat ของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS), โครงการ Copernicus ของสหภาพยุโรปที่ใช้ดาวเทียม Sentinel และความร่วมมือกับ NASA รวมถึงแหล่งข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย โดยภาพถ่ายดาวเทียมเหล่านี้ถูกนำมาประมวลผลอย่างละเอียดในระบบคลาวด์ของ Google เพื่อสร้างชุดข้อมูลภาพ Timelapse ที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของโลกย้อนหลังได้ถึง 37 ปี

Google Earth ใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมจากดาวเทียมของ NASA อย่างแน่นอน โดยเฉพาะภาพจากโครงการ Landsat ซึ่งเป็นดาวเทียมสำรวจโลกที่ NASA ร่วมกับ USGS พัฒนาและดำเนินการ นอกจากนี้ยังใช้ข้อมูลจากดาวเทียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ NASA เช่น MODIS และข้อมูลภูมิสารสนเทศจากโครงการต่างๆ ของ NASA อีกด้วย ตัวอย่างเช่น Google Earth Timelapse ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่แสดงภาพการเปลี่ยนแปลงของโลกย้อนหลังหลายสิบปี ใช้ภาพความละเอียดสูงจากดาวเทียมของ NASA กว่า 5 ล้านภาพ ตั้งแต่ปี 1984 เป็นต้นมา ดังนั้น Google Earth จึงอาศัยข้อมูลดาวเทียมของ NASA เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการแสดงภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลภูมิสารสนเทศต่างๆ

การอัปเดตภาพใน Google Earth ไม่ได้เป็นแบบเรียลไทม์ แต่มีการอัปเดตเป็นระยะเวลาหลายปี โดยภาพใหม่จะถูกเลือกและประมวลผลเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนที่สุด เช่น การลบเมฆและเลือกพิกเซลที่ดีที่สุดในแต่ละปี จากนั้นจึงนำภาพเหล่านี้มาซ้อนทับบนแผนที่ 3 มิติของโลก

นอกจากนี้ Google Earth ยังใช้ Google Earth Engine ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลตรวจจับระยะไกลจำนวนมาก เพื่อช่วยในการติดตามและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวโลกอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมที่ใช้ใน Earth Engine มีตั้งแต่ทศวรรษ 1970 จนถึงปัจจุบัน และครอบคลุมดาวเทียมหลายชุด เช่น Landsat, Sentinel, MODIS เป็นต้น

บทสรุป

Google Earth เป็นมากกว่าเครื่องมือแสดงภาพ มันคือ แพลตฟอร์มข้อมูลภูมิสารสนเทศแบบเปิด ที่มีความสามารถหลากหลาย ทั้งในด้านการวิเคราะห์ การสื่อสารข้อมูล และการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงพื้นที่ ด้วยความสามารถที่เข้าถึงได้ง่ายและมีข้อมูลที่ครอบคลุมทั่วโลก Google Earth จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในวงวิชาการและงานวิจัยด้านภูมิสารสนเทศในปัจจุบัน

สรุปคือ Google Earth อัปเดตข้อมูลดาวเทียมโดยการรวบรวมภาพจากดาวเทียมสำรวจโลกหลายโครงการ ผ่านการประมวลผลในระบบคลาวด์ของ Google เพื่อสร้างภาพที่ชัดเจนและแสดงการเปลี่ยนแปลงของโลกในรูปแบบ Timelapse และใช้ Earth Engine ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ใส่ความเห็น

Related Posts