18, ก.ย. 2019
อธิบายหลักการประยุกต์การตรึงพิกัดแผนที่ด้วย Geo-referencing

อธิบายหลักการประยุกต์การตรึงพิกัดแผนที่ด้วย Geo-referencing

แนวคิดหลักการหา landmark หรือจุด หรือหมุดอ้างอิงบนแผนที่ เพื่อนำไปกำหนดค่าพิกัด เพื่อตรึงพิกัดแผนที่ในระบบกริด UTM ได้ ที่นัก GIS จะต้องทำความเข้าใจหลักการสำคัญนี้ เพื่อตรึงพิกัดแผนที่ได้อย่างถูกต้อง และแม่นยำมากขึ้น ผู้สนใจสามารถเข้าชม เพื่อให้ได้แนวคิดนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อไปจากวีดีโอชุดนี้
การประยุกต์ใช้ Geo-referencing หรือ การตรึงพิกัดแผนที่ เป็นหนึ่งในกระบวนการพื้นฐานและสำคัญที่สุดในงานระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) โดยเฉพาะเมื่อต้องนำภาพ แผนที่สแกน (Raster) ซึ่งยังไม่มีค่าพิกัด มาเชื่อมโยงเข้ากับ ระบบพิกัดภูมิศาสตร์มาตรฐาน เช่น UTM (Universal Transverse Mercator)

🧭 หลักการของ Geo-referencing

❓ Geo-referencing คืออะไร?

Geo-referencing หมายถึง การกำหนดค่าพิกัดภูมิศาสตร์ให้กับข้อมูลภาพ (เช่นแผนที่สแกน, ภาพถ่ายทางอากาศ) โดยอ้างอิงกับระบบพิกัดมาตรฐาน เช่น WGS84 หรือ UTM เพื่อให้สามารถนำมาใช้งานในระบบ GIS ได้อย่างถูกต้อง และเชื่อมต่อกับข้อมูลเชิงพื้นที่อื่นๆ ได้


🎯 วัตถุประสงค์ของการตรึงพิกัด

วัตถุประสงค์ คำอธิบาย
📍 ระบุตำแหน่งจริงของข้อมูลภาพ เพื่อให้สามารถวางแผนที่ลงในโลกจริงได้
🗺️ เชื่อมโยงข้อมูล Raster กับ Vector เพื่อใช้แสดงผลร่วมกับ shapefile, DEM หรือข้อมูลสำรวจ
🧭 รองรับการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ เช่น วัดระยะทาง, พื้นที่ หรือ Overlay
🧾 จัดทำฐานข้อมูลแผนที่เพื่อใช้ในงานราชการ / ผังเมือง เช่น ระวางที่ดิน, พื้นที่ป่าไม้, เขตชุมชน

🔍 หลักการเลือก Landmark หรือจุดอ้างอิง (Control Points)

Landmark หรือ Ground Control Point (GCP) คือจุดที่สามารถระบุพิกัดภูมิศาสตร์ที่ถูกต้องได้ทั้งในภาพ (Raster) และในโลกจริง

🧠 แนวคิดสำคัญ:

  1. ต้องอยู่ทั้งในภาพ และรู้ค่าพิกัดจริง (X, Y หรือ Easting, Northing)

  2. ต้องกระจายครอบคลุมทั่วภาพ → อย่างน้อย 4 จุดขึ้นไป (มุมทั้ง 4 และกลางภาพ)

  3. ยิ่งแม่นยำ ยิ่งดีกับผลการตรึงภาพ

  4. ยิ่งอยู่ใกล้ขอบภาพ → มีผลต่อความแม่นยำมาก


🧭 ตัวอย่าง Landmark หรือ GCP ที่ดี

Landmark ที่ดี เหตุผล
🔲 จุดตัดเส้นพิกัด UTM (Grid 1×1 km) ชัดเจนบนระวางที่ดิน
🛣️ ทางแยกใหญ่, จุดตัดถนน ตรวจสอบได้จากแผนที่ฐาน
🏫 โรงเรียน, อาคารราชการ พิกัดชัดเจนจากฐานข้อมูลกรมที่ดิน/Google Earth
🕍 วัด, โบสถ์, อนุสาวรีย์ จุดเด่นด้านศาสนา/วัฒนธรรม
🌉 สะพาน, ทางรถไฟ รูปทรงชัดเจนบนภาพและแผนที่

🛠️ ขั้นตอนการ Geo-referencing (โดยสรุป)

  1. เปิดภาพ Raster (เช่นแผนที่สแกน)

  2. เปิดแผนที่อ้างอิง (เช่น shapefile จังหวัด, ถนน)

  3. เพิ่ม GCP: คลิกจุดที่รู้พิกัดบนภาพ → พิมพ์ค่าพิกัดจริง

  4. ใส่ค่าพิกัด: ใช้ระบบ UTM เช่น EPSG:32647

  5. ตรวจสอบ RMS Error: ยิ่งน้อย ยิ่งแม่น

  6. Rectify ภาพ: บันทึกไฟล์ใหม่ที่มีพิกัดภูมิศาสตร์


📚 หลักการคำนวณและความแม่นยำ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความแม่น แนวทางปฏิบัติ
จำนวน GCP ใช้อย่างน้อย 4 จุด (มุมภาพ) และเพิ่มจุดภายในภาพหากจำเป็น
การกระจาย GCP ให้ทั่วทั้งภาพ ไม่กระจุกตัว
RMS Error (ค่าความคลาดเคลื่อน) < 5 เมตร ถือว่าดี
ระบบพิกัดที่ใช้ ต้องเลือก UTM Zone ให้ตรงกับพื้นที่

📺 เรียนรู้เพิ่มเติมผ่านวิดีโออาจารย์สุเพชร

📌 ช่อง: “เรียน GIS ออน์ไลน์ สไตล์อาจารย์สุเพชร”
🔗 Subscribe ช่อง YouTube

🎓 วิดีโอที่เกี่ยวข้อง:

  • การอ่านพิกัด Grid UTM บนแผนที่

  • การเลือก Landmark ที่ดีเพื่อ GCP

  • การคำนวณ RMS Error

  • เทคนิคซ้อน Raster กับ Vector ให้ตรง


📝 เอกสารประกอบการเรียนรู้

เอกสาร รายละเอียด
📄 Worksheet: แบบฝึกการหาพิกัด GCP จากแผนที่ ใช้ Grid 1×1 km
🧭 UTM Zone Map + EPSG Codes สำหรับประเทศไทย
🌍 Infographic: หลักการ Geo-referencing แจกในห้องเรียน
📐 ตารางเปรียบเทียบผล RMS กับความแม่นยำเชิงตำแหน่ง ใช้สรุปผลการตรึงพิกัด

✅ สรุป

การเข้าใจแนวคิดของ Geo-referencing และการเลือก Landmark ที่แม่นยำ เป็นพื้นฐานที่นัก GIS ต้องเชี่ยวชาญ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของการนำข้อมูลแผนที่เข้าสู่ระบบเชิงพิกัดจริง หากทำไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวิเคราะห์เชิงพื้นที่อย่างมีนัยสำคัญ เช่น พื้นที่ทับซ้อนผิดพลาด, วัดระยะทางผิด, หรือใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายผิดพลาด

ติดตามความรู้ทางยูทูปของอาจารย์สุเพชรได้ที่
♫♪♥♥ SUBSCRIBE ♥♥♫♪
“เรียน GIS ออน์ไลน์ สไตล์อาจารย์สุเพชร”

http://www.youtube.com/subscription_center?add_user=supetgis2me

♫♪♥♥[̲̅̅T][̲̅̅H][̲̅̅A][̲̅̅N][̲̅̅K] [Y][̲̅̅O][̲̅̅U]♥♥♫♪
.(◕‿◕✿)

ใส่ความเห็น

Related Posts