Earth Map: เครื่องมือใหม่สำหรับการติดตามการใช้ที่ดินและการประเมินสภาพภูมิอากาศแบบไม่ต้องเขียนโค้ด
“Earth Map: เครื่องมือใหม่สำหรับการติดตามการใช้ที่ดินและการประเมินสภาพภูมิอากาศด้วยข้อมูลการสังเกตการณ์โลกแบบไม่ต้องเขียนโค้ด”
บทนำ
ในยุคที่ข้อมูลการสังเกตการณ์โลก (Earth Observation: EO) มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ความสามารถในการเข้าถึง วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างรวดเร็วและง่ายดายจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เครื่องมือ Earth Map ซึ่งพัฒนาโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ภายใต้ความร่วมมือกับ Google Earth Engine (GEE) นับเป็นนวัตกรรมสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานจากหลากหลายภาคส่วนสามารถเข้าถึงข้อมูล EO และดำเนินการวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อม ภูมิอากาศ และการใช้ที่ดินในลักษณะบูรณาการ โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมหรือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)
ความเป็นมาของ Earth Map
Earth Map เปิดตัวในปี ค.ศ. 2016 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเครื่องมือแบบเปิด (open-source) และไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับการติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ การประเมินภูมิอากาศ และการวิเคราะห์อื่น ๆ ที่อิงข้อมูล EO ผ่านอินเทอร์เฟซแบบ point-and-click โดยผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านเทคนิคใด ๆ เครื่องมือนี้จึงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างข้อมูล EO ปริมาณมหาศาลกับผู้ใช้งานทั่วไป อาทิ นักวิจัย เกษตรกร ผู้วางนโยบาย หรือบุคคลทั่วไปที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
It is currently not pos
คุณสมบัติเด่นของ Earth Map
1. การทำงานบน Google Earth Engine
Earth Map ใช้ขุมพลังการประมวลผลจาก Google Earth Engine ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูล EO ปริมาณมากในระดับเพตะไบต์ ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์สถิติด้านสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศ เช่น อุณหภูมิ ปริมาณฝน พื้นที่ป่าไหม้ และการเปลี่ยนแปลงของพืชพรรณ ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยไม่ขึ้นอยู่กับสมรรถนะของอุปกรณ์ที่ใช้
2. การเข้าถึงข้อมูลหลายมิติและหลายช่วงเวลา
Earth Map รองรับการเข้าถึงข้อมูลแบบ time series และแสดงผลในลักษณะแผนที่ (spatial visualization) ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่เป้าหมายทั้งในเชิงเวลาและพื้นที่ ตัวอย่างข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้ เช่น
- ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินจาก European Space Agency’s Climate Change Initiative
- ข้อมูลการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้จาก Global Forest Change
- ข้อมูลภูมิอากาศสุดขั้ว (extreme climate)
3. การจำแนกข้อมูลเชิงหัวข้อ
ข้อมูลใน Earth Map ถูกจัดหมวดหมู่ตามธีมเพื่อให้ง่ายต่อการเลือกใช้ ประกอบด้วยหมวด:
- ภูมิอากาศ (Climate)
- สังคม-ภูมิศาสตร์ (Geo-social)
- พืชพรรณ (Vegetation)
- ความเป็นกลางของการเสื่อมโทรมที่ดิน (Land Degradation Neutrality)
- น้ำ (Water)
- ภาพจากดาวเทียม (Satellite images)
- การใช้ที่ดิน/การครอบคลุมที่ดิน (Land Cover/Land Use)
- ป่าไม้ (Forestry)
- ไฟไหม้ (Fire)
- ธรณีฟิสิกส์ (Geophysical)
- ดิน (Soil)
- ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity)
4. ความสามารถในการสร้างสถิติทันที (On-the-fly Statistics)
Earth Map สามารถคำนวณสถิติแบบเรียลไทม์ได้ทันที เช่น ค่าเฉลี่ยรายปีหรือรายเดือน และลำดับเวลา (time series) สำหรับตัวแปรสิ่งแวดล้อมที่เลือก โดยไม่ต้องดาวน์โหลดข้อมูลดิบมาใช้งานก่อน
ประโยชน์และการประยุกต์ใช้งาน
Earth Map เป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้ในหลายบริบท ได้แก่:
- การวิจัย: สนับสนุนการศึกษาในด้านสิ่งแวดล้อม เกษตรกรรม และการใช้ที่ดิน
- การวางแผนนโยบาย: ช่วยให้ภาครัฐหรือองค์กรพัฒนาเอกชนสามารถวิเคราะห์แนวโน้มพื้นที่เสี่ยงหรือประเมินผลกระทบจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
- ภาคเกษตรกรรม: เกษตรกรสามารถประเมินความเหมาะสมของพื้นที่และแนวโน้มภูมิอากาศเพื่อวางแผนการผลิต
- การมีส่วนร่วมของประชาชน: สื่อสารข้อมูลกับสาธารณชนในประเด็นการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมผ่านภาพแผนที่เชิงโต้ตอบ
บทสรุป
Earth Map เป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองแนวคิด democratizing Earth Observation data อย่างแท้จริง โดยเปลี่ยนข้อมูล EO ที่ซับซ้อนให้กลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนเข้าถึงได้ ใช้งานได้ง่าย และมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการวิจัย การวางนโยบาย และการเสริมสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมในทุกระดับ